ผสมดินอย่างไร ให้ได้สัดส่วนเหมาะสม

ผสมดินอย่างไร ให้ได้สัดส่วนเหมาะสม

ดินถือว่าเป็นส่วนสำคัญมากในการปลูกผัก การผสมดินให้มีคุณภาพก่อนปลูกผัก การปลูกผักเบื้องต้นต้องปรุงดินให้ได้คุณภาพก่อน จึงจะค่อยขยับไปสู่ขั้นตอนการปลูกผักเพราะดินคือหัวใจสำคัญ ถ้าดินไม่ดีผักก็ไม่งาม แถมยังโดนโรคและแมลงมารบกวนอีกด้วยซึ่งดินมีส่วนสำคัญมากในการปลูกพืชทุกชนิดยิ่ง พืชผักด้วยแล้วยิ่งมีความสำคัญ เพราะว่าผักต้องการธาตุอาหารในดินที่สูงมาก

การผสมดินที่สมบูรณ์นั้นไม่มีอะไรยากเลยครับ เพียงแต่เพื่อน ๆ ทำตามที่ผมบอกก็พอ อย่างแรกคือทิ้งความคิดและความคาดหวังว่าจะผสมดินและปรุงดินให้ออกมาเป็นดินที่สุดยอดไม่มีดินไหนเทียบเท่าได้ซึ่งแน่นอนครับว่า ไม่มีทางเพราะการผสมดินมันก็มีสัดส่วนของมัน คุณภาพก็ขึ้นอยู่กับวัสดุที่มาผสมด้วยเช่นกัน แต่ถ้าอยากจะได้คุณภาพดินที่ได้มาตรฐานก็ควรจะเลือกวัสดุในการผสมดินที่ดีด้วยเช่นกัน

ลักษณะของดินเหนียวจะติดกันเป็นก้อนอย่างนี้ลักษณะของดินเหนียวจะติดกันเป็นก้อนอย่างนี้

โดยการผสมดินนั้นไม่ต้องใช้พื้นที่มากมายอะไร สมมุติว่าเราอยู่คอนโดหรืออพาร์เมนต์ เราเพียงหาถังสีดำมาใบหนึ่งถ้านึกไม่ออกก็ต้องบอกว่าถังใส่น้ำยังไงละครับ มาเป็นภาชนะในการผสมก็ได้เช่นกัน

ก่อนที่จะผสมดินสิ่งแรกที่ควรรู้เลยก็คือเรื่องของดินนั้นเอง ดินโดยทั่วไปนั้นยังไม่เหมาะที่จะนำมาเพะปลูกผัก โดยเฉพาะการปลูกผักในกระถางเพราะว่าเป็นพื้นที่จำกัด อาหารที่พืชจะได้ก็มีน้อยมากถ้าเราไม่ปรุงดินก่อนแล้วธาตุอาหารในดินจะไม่เพียงพอกับผักที่เราปลูกด้วยเช่นกัน ดินแบ่งเป็น 3 ชนิดใหญ่ ๆด้วยกันคือ

ดินเหนียวเป็นดินที่มีลักษณะเหนียวเหมือนกับชื่อของมันจะมีเนื้อดินที่ค่อนข้างละเอียดและดูดซับน้ำได้ดีแต่ระบายน้ำไม่ดี ถ้าเป็นดินเหนียวเราจะต้องผสมอินทรียวัตถุอย่างทราย หรือขี้เถ้าแกลบลงไป เพื่อให้ดินเหนียวมีช่องว่างของดินเพื่อที่จะให้ดินเหนียวมีลักษณะการระบายน้ำที่ดีขึ้น รวมถึงควรเพิ่มปุ๋ยหมักและปุ๋ยคอกลงไปด้วย แต่ดินเหนียวจะเป็นดินที่มีธาตุอาหารสูงที่สุดในบรรดาดินทั้งหมดครับ

ดินทราย เป็นดินที่มีธาตุอาหารที่น้อยมาก แต่คุณสมบัติของดินทรายนั้นจะเด่นเรื่องของการระบายน้ำที่ดี ซึ่งข้อดีนี้ก็เป็นข้อเสียไปในตัวเหมือนกันเพราะว่าดินทรายไม่สามารถที่จะอุ้มน้ำได้เราจึงต้องผสมอินทรีย์สารที่สามารถมีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้อาทิ ขุยมะพร้าว และขี้เถ้าแกลบ และอีกเช่นเคยอย่าลืมเติมส่วนผสมสุดท้ายนั้นก็คือปุ๋ยหมักและปุ๋ยคอกนั้นเอง

ลักษณะของดินทรายจะไม่อุ้มน้ำลักษณะของดินทรายจะไม่อุ้มน้ำ

และดินชนิดสุดท้ายก็คือ ดินร่วน ซึ่งเป็นดินที่อยู่ระหว่างกึ่งกลางระหว่างดินทรายกับดินเหนียว ซึ่งคุณสมบัติของดินชนิดนี้จะเหมาะกับการปลูกพืชได้ทุกชนิดซึ่งรวมถึงปลูกผักด้วยเช่นกัน คุณสมบัติของดินร่วนนั้นคือ สามารดูดซับน้ำได้ปานกลาง มีความอุดมสมบูรณ์ของธาตุอาหารที่สูง

ลักษณะของดินร่วนเป็นดินที่เหมาะกับการเพาะปลูกมากที่สุดลักษณะของดินร่วนเป็นดินที่เหมาะกับการเพาะปลูกมากที่สุด

ในการเพิ่มแร่ธาตุให้กับดินเราควรมีการปรุงดินให้มีธาตุอาหารที่เหมาะสมกับการเพาะปลูก

อัตราส่วนที่เหมาะสม
– ใส่ปุ๋ยหมัก 1 กิโลกรัม (ประมาณ 0.5 ลิตร) ลงในภาชนะ
– ใส่ดินผสม
– ใส่ดินทั่วไป 5 ลิตร แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน
– รดน้ำแล้วหยอดเมล็ดพืชลงไป
– รดน้ำอีกทกครั้ง ให้ดินชุ่มชื้น

Top