การปลูกไผ่ตงลืมแล้ง รายได้ไร่ละ 50,000
การปลูกไผ่ตง เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถสร้างรายได้มากมาย ไผ่ตง เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ไผ่ตงลืมแล้ง การปลูกไผ่ตง ควรปลูกในช่วงฤดูฝน ซึ่งจะอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม เป็นช่วงหน้าฝน ช่วงปลายฝนต้นหนาว ซึ่งจะน้ำเยอะ เพราะต้นไผ่ตงชอบน้ำเป็นอย่างมาก
ผลผลิตที่จะได้จากไผ่ตง ก็คือหน่อไม้ไผ่ตงรสชาติหวาน ที่ไม่ว่าจะเมนูไหน หน่อไม้ไผ่ตงก็ชนะเลิศแน่นอน ไผ่ตงเป็นพืชที่ปลูกง่าย ตายยาก ถ้าดูแลเป็นอย่างดีจะมีผลผลิตดีที่สามารถสร้างรายได้มหาศาล สำหรับใครที่ว่างงานอยู่ สนใจในเรื่องราวของการปลูกไผ่ตง มาทำความรู้จักกับไผ่ตงและวิธีการปลูกไผ่ตงให้มากยิ่งขึ้น
การเตรียมดิน
เริ่มต้นที่การเตรียมดินก่อนเป็นอันดับแรก ต้องขุดหลุม ซึ่งขนาดของหลุมสำหรับการปลูกไผ่ตงนั้น จะขึ้นอยู่กับสภาพของดินด้วยเช่นเดียวกัน ถ้าเป็นดินร่วนก็ไม้จำเป็นต้องขุดหลุมใหญ่มากนัก การขุดหลุมให้ขุดที่ขนาดประมาณ 40x40x40 เซนติเมตร ระยะห่างของหลุม ก็คือระยะห่างของต้นไผ่นั้นก็ให้ห่างประมาณ 3×3 เมตร หรือ 2×3 เมตร และการเตรียมดินขั้นตอนที่สำคัญมากที่สุดก็คือ การเตรียมดินผสมกับปุ๋ยคอกคลุกเคล้าให้เข้ากัน เพื่อรองก้นหลุมเอาไว้ สำหรับบางท่านที่กังวลในเรื่องของแมลงและศัตรูพืช ก็เพียงแค่ผสมฟูราดานลงไปเพื่อเป็นการป้องกัน
วิธีการปลูกไผ่ตง
ขั้นตอนการนำกิ่งไผ่ลงปลูก เพียงแค่ทำการวางกิ่งไผ่ลงหลุมและมีดินกับปุ๋ยคอกผสมอยู่ก้นหลุม วางกิ่งไผ่ประมาณ 50 องศา เพื่อเปิดโอกาสให้มีการแตกหน่อเกิดขึ้นได้ง่ายๆ หลังจากวางกิ่งไผ่ลงแล้ว ก็กลบหน้าดิน อัดดินให้แน่น ให้นูนเล็กน้อย และรดน้ำให้ชุ่ม เมื่อจบขั้นตอนนี้แล้ว ให้ทำการนำไม้แข็งแรงปักเอาไว้เป็นที่ยึดสำหรับกิ่งไผ่ เพราะมันอาจจะยังแข็งแรงไม่มากพอ แต่เมื่อผ่านไปประมาณ 6 เดือนแล้วมันจะแข็งแรงมากยิ่งขึ้น และทนต่อสภาพแวดล้อมได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเจอกับสภาพใดก็ตาม
การจัดการปุ๋ยและแต่งกอ
หากปลูกไผ่ในสภาพดินที่ดี แค่ให้ปุ๋ยคอกเพียง 2-3 ครั้ง ก็เพียงพอแล้ว ไม่แนะให้ใช้ปุ๋ยเคมี เพราะจะทำให้ดินเสื่อมสภาพเร็วและสิ้นเปลืองต้นทุน เมื่อปลูกไผ่ครั้งแรก ควรให้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก จำนวน 2 กิโลกรัม/กอ อีก 4 เดือน ให้ใส่เพิ่มเป็น 4 กิโลกรัม/กอ หากใครเลี้ยงหมู ไก่ วัว ฯลฯ สามารถนำมูลสัตว์มาใช้เป็นปุ๋ยคอก ก็ช่วยประหยัดต้นทุนได้อีกทางหนึ่ง เกษตรกรควรหาปุ๋ยน้ำขี้หมู มาใช้ในสวนไผ่ เพราะต้นไผ่จะสามารถเติบโตได้ดีและมีผลผลิตมาก
หากเป็นไปได้ แนะนำให้เกษตรกรปลูกไผ่ก่อนเดือนมิถุนายน เพราะต้นไผ่จะมีอายุมากพอที่จะทำหน่อนอกฤดูได้ในปีถัดไป การไว้ลำแม่เพื่อจะทำหน่อนอกฤดูควรไว้หน่อช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม เพราะเป็นระยะเหมาะสมที่สุด ลำต้นแม่ จะไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป
หลังจากนั้น ให้ตัดแต่งกิ่งภายในเดือนพฤศจิกายน โดยเลือกลำแม่ไว้เพียงกอละ 1-2 ลำ เท่านั้น ลำที่มีระยะเหมาะสมคือ มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของลำโต 1.5-2 นิ้ว จะดีที่สุด ถ้ามีหน่อหลุดออกมาหลังจากนี้ให้คอยตัดออกทั้งหมด อย่าไว้ลำอีกเด็ดขาด
ต้นเดือนมกราคม ควรให้ปุ๋ยและคุมฟางที่โคนกอ และเริ่มให้น้ำประมาณปลายเดือนมกราคม ช่วงแรกควรให้น้ำบ่อยและให้ดินเปียกโชก พออากาศเริ่มอุ่นไผ่จะเริ่มแทงหน่อ ควรให้น้ำน้อยลง เริ่มเก็บหน่อช่วงเดือนกุมภาพันธุ์-พฤษภาคม (นอกฤดู) หลังจากตัดหน่อไปได้สัก 2-3 หน่อ/กอ ควรใส่ปุ๋ยคอกอีกรอบ
การเก็บเกี่ยว
การเก็บเกี่ยวหน่อไม้ไผ่ตง เมื่อปลูกไปได้ประมาณ 3 เดือน จะเริ่มมีการแตกหน่อ แต่ยังไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้ จนผ่านไปประมาณ 6 เดือนจึงจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ ซึ่งวิธีการเก็บเกี่ยวก็คือต้องดูที่ตัวหน่อไม้ก่อนเป็นอันดับแรก หน่อที่แตกออกมาต้องเติบโต อาบใหญ่ มีความยาวประมาณ 1 ไม้บรรทัดหรือว่า 1 ฟุต ตัดแล้วส่งขายเลยแบบสดๆจะได้คุณภาพมากๆ ไม่ควรตัดทิ้งไว้นานจนเกินไป และในปัจจุบันนี้เจ้าของสวนไผ่ตงหลายรายมีรายได้จากการขายและส่งออกหน่อไม้ไผ่ตงแบบมหาศาล เพราะนำไปทำได้หลายอย่าง
ถ้าดูแลให้ดี ไผ่ 1 กอ จะให้ผลผลิตเฉลี่ย 6-10 กิโลกรัม ต่อหนึ่งนอกฤดูกาล ราคาที่ขายได้ 40-70 บาท/กิโลกรัม หรือประมาณ 250 บาท/กอ ทำให้มีรายได้ไร่ละ 50,000 บาทขึ้นไป

ผลตอบแทนจากการปลูกไผ่ตง
เมนูอาหารที่ทำขึ้นจากหน่อไม้ไผ่ตง เป็นเมนูอาหารเลิศรส ความหวานกรอบแบบธรรมชาติของหน่อไม้ไผ่ตงเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง ซึ่งหลังจากเก็บเกี่ยวแล้ว ก็มักจะมีการแตกหน่อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ใครที่ชอบกินหน่อไม้อยู่แล้วจะรู้ได้ทันทีเลยว่า หน่อไม้ไผ่ตงนั้นคือที่สุดแล้วถ้าเทียบกับสายพันธุ์ไผ่อื่นๆ จะตัดหน่อไว้กินเอง หรือจะออกขายก็เพิ่มรายได้ หันมาปลูกไผ่ตงกันเยอะๆ นอกจากจะสร้างรายได้แล้วยังช่วยรักษาป่าและธรรมชาติดีดีเอาไว้อีกด้วย